ประโยชน์ของกระเจี๊ยบแดง
กระเจี๊ยบมีสารแอนโทไซยานิน
(Anthocyanin) และมีสารโพลีฟีนอล
ซึ่งได้แก่ Protocatechuic
Acid ที่มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ
ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยชะลอความแก่ และช่วยให้เส้นเลือดอ่อนนิ่มได้
กระเจี๊ยบใช้ทำเป็นน้ำดื่มที่ช่วยทำให้ร่างกายสดชื่น
เนื่องจากมีกรดซิตริกอยู่ด้วยน้ำกระเจี๊ยบแดง
ใบอ่อนของกระเจี๊ยบใช้รับประทานเป็นผักได้
หรือจะนำมาใช้ทำแก้งส้มก็ได้ ให้รสเปรี้ยวกำลังดี และยังมีวิตามเอสูง (12,583 I.U. ต่อ 100 กรัม)
ที่ช่วยบำรุงสายตาอีกด้วย
กลีบเลี้ยงผลและกลีบดอกอุดมไปด้วยแคลเซียม
ที่ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
กระเจี๊ยบแดง
จัดเป็นพืชส่งออกโดยนำไปใช้เป็นส่วนผสมสำคัญสำหรับ Herbal Tea และใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร ใช้บริโภคภายในประเทศ
ใช้ทำเป็นผลิตภัณฑ์ได้อย่างหลากหลาย เช่น ผลิตภัณฑ์ชาชง กระเจี๊ยบแดงอบแห้ง
กระเจี๊ยบแดงแคปซูล เครื่องดื่มต่างๆ ใช้ในอุตสาหกรรมสีผสมอาหาร
หรือใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร ได้แก่ แยม เยลลี่ เบเกอรี่ ไอศกรีม ไวน์ น้ำหวาน ซอส
เป็นต้น รวมไปถึงในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เช่น โลชั่น ครีมกระเจี๊ยบแดง เจลอาบน้ำ
ครีมขัดผิว เป็นต้น
น้ำต้มของดอกแห้งจะมีกรดผลไม้หรือ AHA อยู่หลายชนิดในปริมาณสูง
จึงมีการนำมาผลิตเป็นเครื่องสำอางประเภทครีมหน้าใส
เมนูดอกกระเจี๊ยบแดง เช่น
แกงส้มดอกกระเจี๊ยบ ยำดอกกระเจี๊ยบ แยมดอกกระเจี๊ยบ ดอกกระเจี๊ยบแช่อิ่ม
กระเจี๊ยบกวน ชากระเจี๊ยบแดง น้ำกระเจี๊ยบแดง เป็นต้น
ในแอฟริกาใต้มีการน้ำมันจากเมล็ดเป็นยารักษาแผลให้อูฐ
นอกจากนี้ลำต้นของกระเจี๊ยบแดงยังสามารถนำมาทำเป็นเชือกปอได้อีกด้วย
คุณค่าทางโภชนาการของกระเจี๊ยบแดง (กลีบดอก) ต่อ 100 กรัม
พลังงาน 49
กิโลแคลอรี่รูปกระเจี๊ยบแดง
คาร์โบไฮเดรต 11.31 กรัม
ไขมัน 0.64 กรัม
โปรตีน 0.96 กรัม
วิตามินเอ 14 ไมโครกรัม 2%
วิตามินบี1 0.011 มิลลิกรัม
1%
วิตามินบี2 0.028 มิลลิกรัม
2%
วิตามินบี3 0.31 มิลลิกรัม
2%
วิตามินซี 12 มิลลิกรัม 14%
ธาตุแคลเซียม 215 มิลลิกรัม
22%
ธาตุเหล็ก 1.48 มิลลิกรัม
11%
ธาตุแมกนีเซียม 51
มิลลิกรัม 14%
ธาตุฟอสฟอรัส 37 มิลลิกรัม
5%
ธาตุโพแทสเซียม 208
มิลลิกรัม 4%
ธาตุโซเดียม 6 มิลลิกรัม 0%
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่
(ข้อมูลจาก : USDA
Nutrient database)
โทษของกระเจี๊ยบแดง
กระเจี๊ยบแดงอาจทำให้เกิดอาการท้องเสียได้ในผู้ป่วยบางราย
เพราะมีฤทธิ์เป็นยาระบาย
น้ำกระเจี๊ยบมีฤทธิ์เป็นยาขับปัสสาวะ
แม่ว่าจะมีความเป็นพิษต่ำมาก แต่ก็ไม่ควรดื่มในปริมาณเข้มข้นและติดต่อกันนานๆ
เพราะจะไม่เกิดผลดีต่อสุขภาพ
ใบใช้ตำพอกฝี หรือใช้ต้มน้ำเพื่อใช้ล้างแผลได้ (ใบ)
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของกระเจี๊ยบแดง ช่วยลดอาการบวม ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ยับยั้งเชื้อราอะฟลาท็อกซินไวรัสเริม ยับยั้งเนื้องอก ช่วยขับกรดยูริก คล้ายกล้ามเนื้อเรียบ และลดความเจ็บปวด
สารสกัดจากลีบดอกของกระเจี๊ยบแดงมีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนในเพศหญิง จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อสตรีวัยทองไม่มากก็น้อย (กลีบดอก)
ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง โดยสารแอนโทไซยานินจากกระเจี๊ยบมีฤทธิ์ช่วยยับยั้งออกซิเดชั่นของไขมันเลส และยับยั้งกายตายของมาโครฟาจ โดยมีสาร Dp3-Sam ซึ่งเป็นแอนโทไซยานินชนิดหนึ่งที่มีฤทธิ์ช่วยกำจัดเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวในห้องทดลองได้ จึงมีผลในการช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งและอาจช่วยชะลอการลุกลามของมะเร็งบางชนิดได้ (น้ำกระเจี๊ยบแดง)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น